จากที่พวกเราได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับอัลกอริทึมและหลักการเขียนโปรแกรมกันมาบ้างแล้ว นับจากนี้เป็นต้นไป คุณครูจะเริ่มให้พวกเราได้ทดลองเขียนโปรแกรมกันแล้ว ซึ่งการเขียนโปรแกรมเป็นสิ่งไม่ยากหากว่าเราเข้าใจหลักการและอัลกอริทึมค่ะ ครูยังเชื่อเสมอว่าลูกๆของครูทุกคนจะสามารถทำได้นะคะ โดยในการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมนั้น พวกเราจำเป็นจะต้องเรียนรู้ในสิ่งต่อไปนี้
1.เริ่มต้นกับภาษาซี (จะได้รู้ว่าภาษาซีมาจากไหนไงคะ)
2.การคอมไพล์และลิงค์ในโปรแกรมในภาษาซี
3.องค์ประกอบพื้นฐานของภาษาซี
4.คำสงวน
5.ชนิดข้อมูลพื้นฐาน
6.ตัวแปร
7.ค่าคงที่
8.ตัวดำเนินการ
9.นิพจน์
โดยให้พวกเราทุกคนได้ช่วยกันทบทวนในเนื้อหาที่เราได้ร่วมเรียนรู้มาแล้วมาในสัปดาห์ก่อนๆ เกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้
พร้อมทั้งยกตัวอย่างการใช้งานด้วยนะ
1.คำสงวน
2.ชนิดข้อมูลพื้นฐาน
3.ตัวแปร
4.ค่าคงที่
5.ตัวดำเนินการ
6.นิพจน์
จากนั้นให้พวกเราทุกคนลองเขียนคำสั่งในการแสดงข้อมูล (ตามตัวอย่างด้านล้างนี้นะคะ)
ตัวอย่างที่ 1 เป็นการเขียนโปรแกรมแสดงผลข้อมูล
#include<stdio.h>
void main()
{
printf(“My name ‘s ………………..”);
}
ผลลัพธ์ที่ได้
My name ‘s ………………………..
………………………………………………………………………………………
ตัวอย่างที่ 2 เป็นการเขียนโปรแกรมรับและแสดงผลข้อมูล
#include<stdio.h>
void main()
{
char name;
printf(“What’s your name?”);
scanf(“%s”,&name);
}
ผลลัพธ์ที่ได้
What’s your name?
………Nungning…………..
……………………………………………………………………………………..
จากตัวอย่างดังกล่าวเป็นการเขียนคำสั่งให้โปรแกรมแสดงชื่อของตัวเองค่ะ ทีนี้ให้เป็นทีของพวกเราได้ลองเขียนโปรแกรมบ้างแล้วนะคะ ลองดูสิคะว่าจะเขียนได้หรือเปล่า โดยให้พวกเราเขียนโปรแกรมต่อท้ายนี้ได้เลยนะ
**** แต่ต้องไม่ใช้คำถามเหมือนตัวอย่างที่ครูกำหนดให้นะคะ ไม่งั้นผิดกติกาเด้อ ****
ป.ล. งานนี้ดูดีๆนะคะ มี 2 งานนะ เพราะฉะนั้นแล้วงานนี้มีคะแนนตั้ง 200 คะแนนแน่ะ แต่ว่าต้องทำให้เสร็จภายในวันนี้นะคะ
สำหรับตัวอย่างที่ 2 พวกเราต้องดูด้วยนะคะว่า เราจะถามเกี่ยวกับอะไร แล้วจะเลือกใช้ชนิดข้อมุลใด ตัวควบคุมตัวแปรประเภทใด ที่สำคัญ อย่าลืมศัพท์ภาษาอังกฤษด้วยล่ะ อันนี้สำคัญมากนะ เพราะถ้าเราใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษไม่ถูกต้องแล้ว จะทำให้เราเขียนโปรแกรมผิดไปเลยจ้า…สู้สู้นะ ครูรู้ว่าพวกเราทำได้อยู่แล้วจ้า
#include
void main()
{
char name;
printf(“What’do you like?”);
scanf(“%do”,&like);
}
ผลลัพธ์ที่ได้
What’ do you like?
……i kile dog……………..
#include
void main()
{
char name;
printf(“What’do you like?”);
scanf(“%do”,&like);
}
ผลลัพธ์ที่ได้
What’ do you like?
…… dog……………..
#include
void main()
{
char name;
printf(“where are you from ?”);
scanf(“%s”,&name);
}
คำสงวน คือคำที่กำหนดขึ้นในภาษาซีให้มีความหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ใช้งานแตกต่างกันการประกาศค่าตัวแปรจะต้องไม่ซ้ำกับคำสงวน
ตัวแปร (Variable) คือ การจองพื้นที่ในหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์จัดเก็บข้อมูลใช้ในการทำงานของโปรแกรม
ค่าคงที่ คือค่าที่กำหนดมาใช้ในดปรแกรมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงค่าตลอดการรันโปรแกรม
ตัวดำเนินการคือ เครื่องหมายที่เชื่อมต่อกันระหว่างนิพจน์หรือตัวแปรอย่างน้อย2ตัวแปรขึ้นไปโดยที่ข้อมุลที่ถูกกระทำหรือตัวที่ถูกกระทำเราเรียนว่าโปะแรนด์
ชนิดข้อมูลพื้นฐานคือ
1.ชนิดตัวอักษร (Character)
2.ชนิดจำนวนเต็ม (Integer)
3.ชนิดจำนวนเต็มที่มีขนาด 2 เท่า (Long Integer)
4.ชนิดเลขทศนิยม (Float)
5.ชนิดเลขทศนิยมอย่างละเอียด (Double)
นิพจน์ในทางคณิตศาสตร์ 2+2 หรือ x-y คือตัวอย่างของนิพจน์ง่ายๆ ในภาษา C# นิพจน์คือการรวมตัวกันของ value (เช่น เลข 2) ตัวแปร (เช่น Foo) และตัวกระทำ
#include
void main()
{
char name;
printf(“where are you come form”);
scanf(“%s”,&name);
}
1.คำสงวน
คือคำที่กำหนดขึ้นในภาษาซีเพื่อให้มีความหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง และนำไปใช้งานแตกต่างกัน การประกาศค่าตัวแปร จะต้องไม่ให้ซ้ำกับคำสงวน
2.ตัวแปร (variable) คือชื่อที่ผู้เขียนโปรแกรมตั้งขึ้น เพื่อใช้เก็บค่าที่ต้องการนำมาใช้งานในการเขียนโปรแกรม เพื่อทำการประมวลผลข้อมูล โดยมีกฏในการตั้งชื่อตัวแปรดังนี้
1. ต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษร ตัวต่อไปอาจจะเป็นตัวอักษรหรือตัวเลขก็ได้
2. ห้ามใช้สัญลักษณ์อื่นใด ยกเว้นเครื่องหมายสตริงก์ ($) และขีดล่าง (Underscore)
3. ตัวแปรอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่มีความหมายแตกต่างกัน
4. ห้ามเว้นวรรคระหว่างตัวแปร
5. ห้ามตั้งชื่อซ้ำกับคำสงวนในภาษาซ
ชนิดของตัวแปร char, int, float, double
3. ชนิดข้อมูลพื้นฐาน
ข้อมูลชนิดตัวอักษร (Character)
คือข้อมูลที่เป็นรหัสแทนตัวอักษรหรือค่าจำนวนเต็ม ได้แก่ ตัวอักษร ตัวเลขและกลุ่มตัวอักขระพิเศษใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูล 1 ไบต ์
2ข้อมูลชนิดจำนวนเต็ม (Integer)คือข้อมูลที่เป็นเลขจำนวนเต็ม ได้แก่ จำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์ ข้อมูลชนิดจำนวนเต็มใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูล ขนาด 2 ไบต์
3ข้อมูลชนิดจำนวนเต็มที่มีขนาด 2 เท่า (Long Integer) คือข้อมูลที่เป็นเลขจำนวนเต็ม ใช้พื้นที่ในการเก็บเป็น 2 เท่าของ Integer คือมีขนาด 4 ไบต ์
4 ข้อมูลชนิดเลขทศนิยม (Float) คือข้อมูลที่เป็นเลขทศนิยม ขนาด 4 ไบต์
5ข้อมูลชนิดเลขทศนิยมอย่างละเอียด (Double) คือข้อมูลที่เป็นเลขทศนิยม ใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูลเป็น 2 เท่าของ float คือมีขนาด 8 ไบต์
4.ค่าคงที่ก็คือตัวแปรที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงค่าได้ คือกำหนดค่าไว้เท่าไหร่ เราจะเปลี่ยนค่าไม่ได้ไปตลอดโปรแกรม ซึ่งมีวิธีประกาศหลายแบบ ที่มันจะขึ้นต้นด้วย “#” เช่น #include
5.ตัวดำเนินการ
– ในโปรแกรมภาษาซีจะใช้ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์เป็นตัวเชื่อมในการเขียนโปรแกรม เพื่อหาผลลัพธ์จากการคำนวณ
ซึ่งสามารถกระทำกับข้อมูลได้หลายรูปแบบ เช่น บวก ลบ คูณ หาร เปอร์เซ็นต์
– ตัวดำเนินการเปรียบเทียบในโปรแกรมภาษาซีคือเครื่องหมายที่ใช้ในการเปรียบเทียบในทางคณิตศาสตร์
ผลลัพธ์จะมี 2 กรณีคือ ถ้าผลลัพธ์ถูกต้องหรือเป็นจริงจะมีค่าเป็น 1 ถ้าผลลัพธ์ผิดหรือเป็นเท็จจะมีค่าเป็น 0 ผลลัพธ์ของการเปรียบเทียบมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าค่าคงที่บูลีน (Boolean Constant) ดังนี้ 8 > 5
ผลลัพธ์เป็นจริง ค่าคงที่บูลีนเป็น 1
0 = 10
ผลลัพธ์เป็นเท็จ ค่าคงที่บูลีนเป็น 0
X > x
ผลลัพธ์เป็นจริง ค่าคงที่บูลีนเป็น 1(เปรียบเทียบค่าตามรหัสแอสกี)
A > B ผลลัพธ์เป็นจริง ค่าคงที่บูลีนเป็น 1
-ตัวดำเนินการทางตรรกะในโปรแกรมภาษาซี คือเครื่องหมายที่ใช้เชื่อมเงื่อนไข 2 เงื่อนไข หรือมากกว่า 2 เงื่อนไข
เพื่อให้การเปรียบเทียบมีความละเอียดมากขึ้น ใช้สัญลักษณ์แทนในแต่ละเครื่องหมาย ดังนี้ && จะให้ผลลัพธ์เป็นจริงเมื่อเงื่อนไขทั้งสองเป็นจริง แต่ถ้าเงื่อนไขใดเป็นเท็จ หรือทั้งสองเงื่อนไขเป็นเท็จจะทำให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ
|| จะให้ผลลัพธ์เป็นจริงเมื่อเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งเป็นจริง หรือเป็นจริงทั้งสองเงื่อนไข แต่ถ้าเป็นเท็จทั้งสองเงื่อนไขจะทำให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ
! จะให้ผลลัพธ์เป็นจริงเมื่อเงื่อนไขหลัง not เป็นเท็จ แต่ถ้าเงื่อนไขหลัง not เป็นจริงจะทำให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ ตัวดำเนินการ ความหมาย ตัวอย่าง
&& และ (and) Mark>=80&&mark<=100
|| หรือ (or) Score100
! ไม่ (not) !x&&!y
6.นิพจน์
คือ ตัวเลขหรือตัวอักขระ หรืออาจจะมีการนำตัวดำเนินการมากระทำระหว่างตัว
เลขหรือตัวอักขระเช่นนิพจน์ในทางคณิตศาสตร์ 2+2 หรือ x-y คือตัวอย่างของนิพจน์ง่ายๆ ในภาษา C# นิพจน์คือการรวมตัวกันของ value (เช่น เลข 2)
#include
void main()
{
char name;
printf(“what your favourite subject ?”);
scanf(“%s”,&name);
}
#include
void main()
{
char name;
printf(“…I’am ……..”);
scanf(“%s”,&name);
}
#include
void main()
{
char name;
printf(“…hi My name’s……..”);
scanf(“%s”,&name);
}
2.ชนิดข้อมูลพื้นฐาน คือ ข้อมูลธรรมดามีเพียง 3 ชนิดเท่านั้น ได้แก่
1จำนวนเต็ม (Integer)
2จำนวนจริง (Float)
3สตริง (String)
และชนิดข้อมูลแบบซับซ้อนอีก 2 ชนิด
ลิสต์ (List)
ดิกชันนารี (Dictionary)
คำว่าซับซ้อนหมายความว่าข้อมูลเหล่านี้จะประกอบไปด้วยข้อมูลประเภทอื่นอยู่ภายในแล้วแต่การใช้งาน เช่น ลิสต์ของจำนวนเต็ม และดิกชันนารีของสตริง เป็นต้น ลิสต์ในที่นี้หมายถึงอาเรย์ (Array) ในภาษาอื่นนั่นเอง แต่ถ้าแบ่งประเภทใหญ่ๆ จะประกอบด้วย
1.ตรรกกะ หรือ บูลีน (Boolean)
2.ตัวเลข
3.ลำดับ
4.จับคู่
ตัวแปร (Variable) คือ การจองพื้นที่ในหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์สำหรับเก็บข้อมูลที่ต้องใช้ในการทำงานของโปรแกรม โดยมีการตั้งชื่อเรียกหน่วยความจำในตำแหน่งนั้นด้วย เพื่อความสะดวกในการเรียกใช้ข้อมูล ถ้าจะใช้ข้อมูลใดก็ให้เรียกผ่านชื่อของตัวแปรที่เก็บเอาไว้
ชนิดของข้อมูล
ภาษาซีเป็นอีกภาษาหนึ่งที่มีชนิดของข้อมูลให้ใช้งานหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งชนิดของข้อมูลแต่ละอย่างมีขนาดเนื้อที่ที่ใช้ในหน่วยความจำที่แตกต่างกัน และเนื่องจากการที่มีขนาดที่แตกต่างกันไป ดังนั้นในการเลือกใช้งานประเภทข้อมูลก็ควรจะคำนึงถึงความจำเป็นในการใช้งานด้วย สำหรับประเภทของข้อมูลมีดังนี้คือ
1. ข้อมูลชนิดตัวอักษร (Character) คือข้อมูลที่เป็นรหัสแทนตัวอักษรหรือค่าจำนวนเต็มได้แก่ ตัวอักษร ตัวเลข และกลุ่มตัวอักขระพิเศษใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูล 1 ไบต์
2. ข้อมูลชนิดจำนวนเต็ม (Integer) คือข้อมูลที่เป็นเลขจำนวนเต็ม ได้แก่ จำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ ศูนย์ ใช้พื้นที่ในการเก็บ 2 ไบต์
3. ข้อมูลชนิดจำนวนเต็มที่มีขนาด 2 เท่า (Long Integer) คือข้อมูลที่มีเลขเป็นจำนวนเต็ม ใช้พื้นที่ 4 ไบต์
4. ข้อมูลชนิดเลขทศนิยม (Float) คือข้อมูลที่เป็นเลขทศนิยม ขนาด 4 ไบต์
5. ข้อมูลชนิดเลขทศนิยมอย่างละเอียด (Double) คือข้อมูลที่เป็นเลขทศนิยม ใช้พื้นที่ในการเก็บ 8 ไบต์
ค่าคงที่ (Constants) คือ ค่าที่กำหนดขึ้นมาใช้ในโปรแกรม โดยค่าคงที่นี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงค่านั้นอีกตลอดการรันโปรแกรมนั้น ๆ เช่น
‘G’ เป็นค่าคงที่แบบอักขระ
‘Computer’ เป็นค่าคงที่แบบสตริง
2546 เป็นค่าคงที่แบบตัวเลข
ตัวดำเนินการ(Operator) หมายถึง เครื่องหมายที่ใช้เชื่อมต่อกันระหว่างนิพจน์ หรือตัวแปรอย่างน้อย 2 ตัวขึ้นไป โดยที่ข้อมูลที่ถูกกระทำหรือตัวที่ถูกกระทำเราเรียกว่า โอปะแรนต์ (Operand)
1.คำสงวน หมายถึงคำหลักที่ใช้ได้เฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้เท่านั้นไม่สามารถนำมาใช้เป็นตัวกำหนดชื่อที่นักเขียนโปรแกรมกำหนดขึ้นเองได้
2.ชนิดข้อมูลพื้นฐานไพธอนมีชนิดข้อมูลอยู่หลายประเภท แต่ชนิดข้อมูลธรรมดามีเพียง 3 ชนิดเท่านั้นได้แก่
1 จำนวนเติม [integer]
2 จำนวนจริง [fioat]
3 สตริง [string]
3.ตัวแปรจะเป็นชื่อที่ใช้ในการบอกจำนวนหรือปริมาณ ซึ่งสามารถที่จะทำการเปลี่ยนแปลงจำนวนได้ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การตั้งชื่อตัวแปร จะต้องตั้งชื่อให้แตกต่างไปจากชื่อของตัวแปรอื่นๆ
4.ค่าคงที่ คือ ค่าที่กำหนดขึ้นมาใช้ในโปรแกรม โดยค่าคงที่นี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงค่านั้นอีกตลอดการรันโปรแกรมนั้น ๆ เช่น
‘G’ เป็นค่าคงที่แบบอักขระ
‘Computer’ เป็นค่าคงที่แบบสตริง
2546 เป็นค่าคงที่แบบตัวเลข
5ตัวดำเนินการ เครื่องหมายที่เชื่อมต่อกันระหว่างนิพจน์หรือตัวแปรอย่างน้อย2ตวแปรขึ้นไปโดยที่ข้อมุลที่ถูกกระทำหรือตัวที่ถูกกระทำเราเรียนว่าโปะแรนด์
6.นิพจน์ หมายถึง การนำตัวแปร ค่าคงที่ มาสัมพันธ์กันโดยใช้เครื่องหมายอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นตัวเชื่อม
#include
void main()
{
char name;
printf(“what are you like food………………..?”);
scanf(“%s”,&name);
}
ผลลัพธ์ที่ได้
what are you like food ?
………….I like Thai food……………..
นิพจน์ (Expression) คือ ข้อคำสั่งที่ใช้กำหนดค่าของข้อมูล เช่น การบวกตัวเลข, การเปรียบเทียบข้อมูล โดยการกำหนดชื่อของตัวแปรตามด้วยเครื่องหมายที่ต้องการกระทำ(Operators) ต่อข้อมูลเป็นผลให้เกิดค่าข้อมูลใหม่ค่าหนึ่งให้กับตัวแปรเพื่อนำไปใช้งาน